หากเปรียบเทียบกับในช่วงยุคสมัยก่อนที่จะลงทุนในรูปแบบใดก็ตามจะต้องไปที่สาขา หรือสำนักงาน แต่ในยุคปรัจจุบันต้องยอมรับว่า การลงทุนนั้นแสนจะง่ายดาย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็สามารภทำธุรกรรมเสร็จสรรพได้ภายในไม่กี่นาที แต่ด้วยความสะดวกสบาย และรวดเร็วแบบนี้ ก็ทำให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางของมิจฉาชีพในการฉวยโอกาสเข้ามาโจรกรรมได้
หากเราไม่อยากหลงตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนเป็นข้อมูล ดังนี้
1.หากมีการจูงใจเรื่องของผลตอบแทนต้องดูว่า สูงเกินจริงไปหรือไม่ บางครั้งเสนอผลตอบแทนสูงมากจนแทบไม่น่าเป็นไปได้ เช่น 70 – 80% หรือ 100% ต่อเดือน ซึ่งหากดูการลงทุนในหุ้นที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนเฉลี่ยไม่ถึง 20% ต่อปี ดังนั้น ถ้าเห็นว่าให้ผลตอบแทนสูงขนาดนี้ ให้เดาไว้ก่อนว่า หลอกลวง ไม่ควรตัดสินใจโดยดูแค่ผลตอบแทน
2.ปกติการลงทุน ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนได้ เพราะผลตอบแทนจะผันผวนตามปัจจัยต่างๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น บริษัทการลงทุนที่ถูกกฎหมายจะไม่มีทางพูดว่า การันตีผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์แบบชัดๆ จะทำได้แค่ประมาณการเท่านั้น
3.มีการเร่งรีบให้เรานั่นตัดสินใจ โดยเร็ว โดยการนำโปรโมชัน หรือแคปเปญต่าง ๆ มาเชิญชวนเร่งรัดให้รีบตัดสินใจ เร่งให้เราตัดสินใจลงทุนไว ๆ
4.แอบอ้างคนมีชื่อเสียง หรือบอกว่าใคร ๆ ก็ลงทุน หรือแม้แต่คนใกล้ชิดที่มาชักชวนก็ตาม และยังบอกให้เราไปชวนคนมาลงทุนเพิ่มมาก ๆ
5.ธุรกิจไม่ชัดเจน ไม่สามารถตรวจสอบได้ ไม่สามารถรู้แหล่งที่มาของรายได้และผลตอบแทนว่าคืออะไร หรือหากนำชื่อไปค้นหาว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ ก็หาไม่เจอ เจอแบบนี้ ปฏิเสธไปได้เลย เพราะอาจเสี่ยงเสี่ยงถูกหลอกได้
6.รักษาความเป็นส่วนตัว โดยการตั้งค่าความปลอดภัยบน social media ป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลอื่น ๆ
7.ในการสมัครช่องทางการลงทุนผ่านออนไลนื มักจะมีการยืนยันตัวตนผ่านทาง SMS เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน ถ้าหากไม่มีนั่นแสดงว่า ไม่มีความปลอดภัย ไม่น่าไว้ใจที่จะเข้าไปลงทุน
8.ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมจะมีข้อความส่งเข้ามาทาง e-mail เพื่อเก็บเป็นหลักได้ ที่นอกเหนือจาการยืนยันตัวตันทาง SMS
9.อย่าโหลดแอปเถื่อน แอปนอก Store และแอปที่ไม่รู้จัก เพื่อป้องกันพวกแอปแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูล
10.ไม่ควรใช้ Wi-Fi ในการทำธุรกรรม ควรใช้เน็ตผ่านทางเครือข่ายมือถือ จะปลอดภัยกว่า
เราต้องรู้ก่อนว่าเราเก็บข้อมูลพวกแอปหรือไฟล์อะไรในมือถือบ้าง
สำคัญ ต้องตั้งรหัสผ่านล็อกหน้าจอมือถือ และตั้ง PASSWORD ในการเข้าแอปด้วยการล็อก 2 ชั้น
หมั่น LOGOUT ทำการออกจากแอปพวก SOCIAL NETWORK บนมือถือ เพื่อไม่ให้คนอื่นหรือโจรมาสวมรอยแอบใช้
ไม่บันทึก USERNAME และ PASSWORD ไว้บนสมาร์ทโฟน เพราะแน่นอนพวกโจรหรือคนอื่นๆที่ได้มือถือเราไป ก็จะพยายามตามหา PASSWORD แน่ ๆ
ตั้งค่าเปิดใช้งาน FINE MY DEVICE บน ANDROID หรือ FIND MY IPHONE สำหรับ IOS ซึ่งระบบนี้สามารถติดตามการตามหาสมาร์ทโฟนได้ หรือควบคุมสั่งลบระยะไกลได้
ข้อมูลจาก : marketingoops