ประเทศมาเลเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ของเรา ซึ่งมีความหลากหลายทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม เนื่องด้วยเป็นประเทศที่รวบรวมผู้คนหลายชนชาติไว้ด้วยกันในประเทศมาเลเซียได้อย่างลงตัว ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยว แม้ว่าทำเลที่ตั้งและลักษณะภูมิศาสตร์จะไม่แตกต่างจากภาคใต้ของบ้านเรานัก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และยังคงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่อย่างมากอีกด้วย จะว่าไป “มาเลเซีย” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งขุมทรัพย์ที่น่าค้นหาแห่งการท่องเที่ยว อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวก็ไม่สูงเพราะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลเมืองไทย ค่าครองชีพ และค่าเงินก็ต่างกันไม่มากนัก มาดู “10 ที่เที่ยวมาเลเซีย” ว่ามีที่ไหนกันบ้าง
ที่เที่ยวแห่งแรกที่จะแนะนำในมาเลเซีย ก็คงหนีไม่พ้น Landmark อันโด่งดังของเมืองหลวงอย่าง Kuala Lumpur กับตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Towers) ตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 452 เมตรจำนวน 88 ชั้น ซึ่งมีสะพานลอยฟ้าเชื่อมต่อสองอาคารไว้ด้วยกันที่ชั้น 41 และชั้น 42 และมีจุดชมวิวเมืองมุมสูงแบบพาโนรามาที่ชั้น 86 ภายในพื้นที่ของตึกแฝดปิโตรนาสประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ศูนย์ประชุม และและศูนย์วิทยาศาสตร์สุดทันสมัย มาเยือนมาเลเซียทั้งที ถ้าไม่ได้มาเยี่ยมตึกแฝดปิโตรนาสแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงมาเลเซียนะบอกเลย
LEGO LAND สวรรค์ของคนรักของเล่นและเด็ก ๆ กับ Theme Park ระดับโลกอันโด่งดังอย่างเลโก้ โดยเลโก้แลนด์ มาเลเซียนับเป็นสวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งที่ 6 ของโลก และเป็นแห่งแรกของเอเชีย ภายในออกแบบตกแต่งไปด้วยเรื่องราวและชิ้นส่วนของเลโก้ และมีเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด โดยแบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน คือ โซน Miniland เป็นการจำลอง Landmark สำคัญ ๆ ในเอเชียด้วยตัวต่อเลโก้ โซน The Beginning บริเวณหน้าสวนสนุกซึ่งเป็นร้านค้า ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก ต่อไปก็เป็นโซฯของเครื่องเล่นและสวนสนุก อันได้แก่ โซน Lego Technic โซน Lego Kingdom โซน Imagination โซน Land of Adventure และโซนสุดท้ายซึ่งเป็นสวนน้ำกับ โซน Water Park สวนน้ำ Theme ตัวต่อแห่งแรกในเอเชีย
Theme Park ที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นมา และมรดกทางวัฒนธรรมของมาเลเซีย อย่างอุตสาหกรรมเหมืองดีบุกที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขาหินปูนเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี ภายในพื้นที่สวนสนุก Lost World of Tambun แบ่งออกเป็น 6 Theme โซน ที่มีทั้งสวนสนุก สวนน้ำพุร้อนกลางคืน สวนสัตว์ที่ได้รวบรวมสัตว์ไว้มากกว่า 55 สายพันธุ์ Adventure Park และโซนสวนน้ำที่มีทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซียอีกด้วย
เมืองเอกของรัฐปีนังอันทรงเสน่ห์ของการผสมผสานรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมและอารยธรรมระหว่างจีนและยุโรป ที่แสดงออกมาทางสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้จอร์จทาว์นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น World Heritage Site จากองค์การ UNESCO ในปี 2008 นอกการศิลปะทางสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นแล้ว เมืองจอร์จทาว์นยังเป็นที่รวมตัวของศิลปิน Street Art ชาวมาเลย์ ที่พากันแสดงฝีมือวาดภาพกราฟฟิกบนกำแพงอาคารต่าง ๆ จนกลายเป็นอีกหนึ่งกิมมิคของเมืองที่ช่วยทำให้เมืองจอร์จทาว์นดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจขึ้นอีกด้วย
Landmark แห่งใหม่ของปีนัง กับ The Habitat Penang Hill หรือ บูกิต เบนดีรา (Bukit Bendera) กับทางเดิน Skywalk รูปลักษณ์โดดเด่นบนเนินเขาของเกาะปีนังที่ความสูง 820 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษณ์ (Eco-Tourism) ที่จะทำให้ได้สัมผัสธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะปีนังอย่างใกล้ชิด พร้อมทัศนียภาพสุดอลังการของจุดชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลสุดสายตาทั่วทั้งเกาะปีนัง สะพานปีนัง และเมืองจอร์จทาว์น
พื้นที่ราบสูงทางตอนเหนือที่สูงที่สุดของมาเลเซีย อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยขุนเขาสูง และเนินไร่ชาอันเขียวขจีที่ถูกปลูกเล่นระดับตามแนวเนินเขา ทั่วทั้งบริเวณหุบเขาสุดสายตา โดยมีไร่ชาชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดอย่าง ไร่ชา Boh ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมไร่ชาอย่างใกล้ชิด นอกจากไร่ชาแล้วที่คาเมรอน ไฮแลนด์ยังเป็นสวรรค์ของคนรักสตอว์เบอรี่ เพราะที่ยังมีฟาร์มสตอว์เบอรี่ลูกใหญ่ยักษ์ อย่าง Big Red Strawberry Farm ฟาร์มสตอว์เบอรี่คุณภาพเยี่ยม ที่นอกจากสตอว์เบอรี่ยังมาพร้อมของหวานอีกหลาหลายเมนู
ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูในเขาหินปูนอายุราว 400 ล้านปี ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของรัฐสลังงอร์ ซึ่งอยู่ตอนเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแก่พระขันธกุมาร โดยมีเทวรูปพระขันธกุมารความสูงถึง 42.7 เมตร อยู่บริเวณปากถ้ำด้านหน้า นอกจากความสวยงามของถ้ำหินปูนธรรมชาติสุดอลังการ และความงดงามของศิลปะฮินดู ยังคงเป็นจุดชมวิวและทัศนียภาพของเมืองสลังงอร์ในมุมสูงอีกด้วย
“ภูเขาแห่งความตาย” ภูเขาหินสีเทาดำอันศักดิ์สิทธิ์ของชาว Saba และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดท่ามกลางป่าดงดิบบนเกาะบอร์เนียว รัฐซาบาห์ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของสถานที่เที่ยวสุดท้าทาย และเป็นที่ Check-In ยอดฮิตของเหล่าผู้พิชิตยอดเขาสูง ที่ความสูง 4,092 เมตรจากระดับน้ำทะเล รูปร่างสวยงามแปลกตา ในอุทยานแห่งชาติคินาบาลู (Kinabalu National Park) อันเป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศมาเลเซียจากยูเนสโก
อีกหนึ่งไฮไลท์และ Landmark ของเกาะลังกาวี รัฐเกดะห์ ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาในจังหวัดสตูลของไทยเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น กับ Langkawi Sky Bridge สะพานแขวนขนาดใหญ่ความยาวกว่า 125 เมตรอันโดดเด่นท่ามกลางภูเขาและต้นไม้อันเขียวขจีบนยอดเขาความสูง 2,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิง Eco-Tourism กับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเหนือยอดไม้ และเป็นจุดชมท้องละเลอันดามัน และเกาะลังกาวีวิวมุมสูงแบบพาโนรามาที่สวยงาม
เกาะสวรรค์ไม่ไกลจากเมืองโกตากีนาบาลู (Kota Kinabalu) เมืองหลวงของรัฐซาบาห์ ที่มีทัศนียภาพอันงดงาม ด้วยธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ และความงดงามของท้องทะเล ทั้งบนผืนน้ำ และโลกใต้ท้องทะเล ชายหาดที่ยังบริสุทธิ์ ทรายละเอียดมีขาวนวล นุ่มสบายเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใสปิ๊งจนเห็นปะการัง และปลานานาพันธ์ใต้ผืนน้ำได้อย่างชัดเจน จึงทำให้เกาะมันตานานี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและท้องทะเล
รู้จักกับ “10 ที่เที่ยวมาเลเซีย” กันไปแล้ว แต่ละที่ก็สวยปังอลังกันไปคนละแบบ เพียงแต่ว่าหลาย ๆ ที่และหลาย ๆ กิจกรรมในที่เที่ยวนั้น ๆ ก็แสนฮอตฮิตคิวยาวสุด ๆ หากใครวางแผนเที่ยวมาเลเซียเอาไว้แล้ว เพื่อความชัวร์ว่าจะได้เที่ยวตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการอย่างแน่นอน เพื่อนๆต้องวางแผนการเดินทางกันล่วงหน้านะคะ
credit : beartai