“วิกฤติ Gen Z” รายได้ไม่สูง แต่ต้องแบกเงินเฟ้อ

Posted by nor-arfah on June 07, 2022

มาม่าขอขายแพงขึ้น เป๊ปซี่ขอขึ้นราคา เป็นตัวอย่างผลกระทบจากเงินเฟ้อ ที่ผู้ผลิตมีต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้นจนอั้นไม่ไหว ท้ายที่สุดจึงต้องผลักภาระมายังผู้บริโภค

ถ้าถามว่าเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อใครบ้าง ก็ต้องบอกว่า ทุกคน แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็คือ กลุ่ม Gen Z หรือเป็นผู้ที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 10-25 ปี แล้วทำไมคนกลุ่มนี้ ถึงได้รับผลกระทบมากที่สุด ?

จริง ๆ แล้ว “เงินเฟ้ออย่างอ่อน ๆ” เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะจะจูงใจให้มีคนมาลงทุน ผลิต และจ้างงานมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวม เติบโตขึ้นตามไปด้วย แต่หากเงินเฟ้อนั้นปรับตัวสูงขึ้นมากเกินไป และทรงตัวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน เราจะเริ่มเจอกับภาวะที่ราคาสินค้าและบริการ กำลังมีราคาแพงจนกระทบกับการใช้ชีวิตโดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z

เหตุผลสำคัญก็เพราะว่าคนกลุ่มนี้ ยังเป็นกลุ่มวัยที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน เป็น First Jobber ยังอยู่ในช่วงลองผิดลองถูก และมักจะมีรายได้ที่ยังไม่สูงมากนัก แต่เงินเฟ้อไม่ได้รู้ว่าเราเป็นเด็กจบใหม่ และยังทำให้ค่าครองชีพของทุก ๆ คนเพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อกลุ่ม Gen Z ที่มีแนวโน้มจะบริหารจัดการเงินในแต่ละเดือน และเก็บออมได้น้อยลงกว่าแต่ก่อน อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปีก่อน และได้พุ่งไปสูงถึง 8.3% เมื่อเดือนก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าสูงสุดตั้งแต่ปี 1980 และได้เริ่มสร้างปัญหาให้กับกลุ่ม Gen Z แล้ว เพราะกลุ่ม Gen Z จำนวนไม่น้อย ยังมีภาระหนี้สินที่เกิดจากการกู้มาเรียน โดย 34% ของคนที่มีอายุ 18-29 ปี เป็นผู้ที่ยังมีภาระหนี้สิน ที่ต้องใช้คืนจากการกู้มาเรียน

นอกเหนือจากการกู้มาเพื่อการศึกษา เงินเฟ้อยังทำให้ค่าที่พักอาศัยแพงขึ้น อย่างกรณีของค่าเช่าห้องนอน 1 ห้อง ในนิวยอร์กนั้น ราคาปรับขึ้นเฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 38% หากเคยเช่าอยู่ในราคา 10,000 บาทต่อเดือนเมื่อปีก่อน จะกลายเป็นราคา 13,800 บาทต่อเดือนในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นต้นทุนในการใช้ชีวิตที่แพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แล้วสถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศไทยเป็นอย่างไร ?

สำหรับในประเทศไทยนั้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่ได้เพิ่มขึ้น มากเท่ากับของสหรัฐอเมริกา แต่เราก็เริ่มเห็นราคาสินค้าและบริการหลายอย่าง ปรับตัวขึ้นไปบ้างแล้วเหมือนกันไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงมาม่า ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่เราแทบจะจำไม่ได้แล้ว ว่าขึ้นราคาครั้งสุดท้ายเมื่อไร

จากสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบัน หากมันยังคงลากยาวต่อไป ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อทั้งธุรกิจและประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และด้วยความที่กลุ่ม Gen Z นั้น ยังมีรายได้ไม่มากนัก การเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ จึงมักใช้การกู้ยืม เพื่อตอบสนองความต้องการ

รู้ไหมว่า ณ สิ้นปี 2564 ที่ผ่านมา ข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ระบุว่า กลุ่ม Gen Z นั้น เป็นกลุ่มที่มียอดหนี้สะสมสูงถึง 97,000 ล้านบาท ในขณะที่มีหนี้เสียสะสม 5,200 ล้านบาท เลยทีเดียว ที่น่าติดตามต่อไปก็คือ ภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยที่กำลังเร่งตัวขึ้น จะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หรือจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงอีกนานแค่ไหน เพราะถ้าอัตราเงินเฟ้อยังเพิ่มขึ้น หรือทรงตัวอยู่ในระดับสูง ก็จะยิ่งบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะสำหรับกลุ่ม Gen Z ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน แต่กลับต้องแบกรับต้นทุนชีวิตที่สูงขึ้นแล้ว..

ข้อมูลจาก : ลงทุนแมน