รวมวิธีสร้าง Passive Income แบบใช้เงิน กับ แบบใช้สมอง

Posted by nor-arfah on June 04, 2022

ปกติแล้วรายได้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. Active Income คือ รายได้ที่เกิดจากการใช้แรงกาย สมอง และเวลาของเรา เพื่อทำงานแลกกับเงิน ถ้าเราไม่ทำงาน เงินจะหยุดไหลมาหาเราทันที
  2. Passive Income คือ รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินที่เรานำเงินไปลงทุน แล้วปล่อยให้เงินทำงานแทนเรา แบบนี้ถ้าเราไม่ทำงาน ก็ยังมีเงินไหลเข้ามา

💎 ทรัพย์สิน คืออะไร ?

‘ทรัพย์สิน’ คือ อะไรก็ตามที่เราครอบครองแล้วทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกเดือน ซึ่งตรงข้ามกับ ‘หนี้สิน’ ที่มีแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกเดือน

💎 ทรัพย์สิน มีอะไรบ้าง ?

ตัวอย่างทรัพย์สินที่เรามักได้ยินบ่อย เช่น เงินฝาก หุ้นกู้ ตราสารหนี้ หุ้นสามัญ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ และ DeFi เป็นต้น

สินทรัพย์พวกนี้ล้วนให้ผลตอบแทนกลับมาหาเราในฐานะผู้เป็นเจ้าของ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือ ค่าเช่า เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องมีเงินซื้อสินทรัพย์เหล่านี้มาครอบครอง แล้วถ้าเราไม่ได้มีเงินลงทุนล่ะ จะสร้าง Passive Income ยังไงได้บ้าง คำตอบอยู่ที่ด้านล่างนี้เลยครับ 👇

💎 Passive Income แบบใช้สมอง

วิธีนี้แทบจะไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลย เน้นการใช้สมองและความพยายามของเราสร้างทรัพย์สินขึ้นมา แล้วปล่อยให้มันทำงาน ตัวอย่างเช่น

  1. Affiliate Marketing คือการช่วยโฆษณาและช่วยหาลูกค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถทำผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเองได้เลย เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าผ่านช่องทางของเรา เจ้าของแบรนด์ถึงจะจ่ายค่าการตลาด (ผลตอบแทน) กลับมาให้เรา
  2. เขียนหนังสือ นำสิ่งที่ถนัดมาเผยแพร่ และรับส่วนแบ่งรายได้จากสำนักพิมพ์ แต่รายได้อาจจะลดลงเรื่อย ๆ ถ้าความรู้ของเราไม่เป็นที่ต้องการในระยะยาว
  3. คอร์สออนไลน์ คล้ายกับการเขียนหนังสือ แต่เปลี่ยนมาอยู่ในรูปออนไลน์
  4. Sound Effect ทำเพลงประกอบและขายผ่านแพลตฟอร์ม ให้กับรายการทีวี และสื่อโซเชียลมีเดีย

💎 Passive Income ไม่ได้สบายเหมือนที่หลายคนเข้าใจ

ตัวอย่าง เช่น การลงทุนในหุ้นปันผล เราจะซื้อหุ้นแล้วไม่สนใจเลยก็ไม่ได้ ยังต้องดูงบการเงินทุกไตรมาสเป็นอย่างน้อย เพื่อดูว่าบริษัทยังขายของได้รึเปล่า จะจ่ายปันผลได้เหมือนเดิมมั้ย หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ก็ไม่ได้หมายความจะมีผู้เช่าอยู่กับเราตลอด บางช่วงอาจจะไม่มีผู้เช่าเลยก็ได้ และไหนยังต้องมาดูแลความสะอาดและปรับปรุงสิ่งของชำรุดอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ต้องใช้แรงและเวลาเข้าไปเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่ต้องทำอะไรเลยนั่นเองครับ เพียงแต่ Passive Income ที่มีมากขึ้น จะช่วยให้เราตัดกังวลเรื่องการเงิน ได้ทำในสิ่งที่อยากทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก งานส่วนตัว หรืองานช่วยเหลือสังคมก็ตาม 😊

ข้อมูลจาก : Dime