การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของไทยในปี 2564 มีมูลค่า 17.09 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น
ซึ่งการขนส่งทางเรือและทางอากาศมีความสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศของไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีสัดส่วนการขนส่งรวมกันกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของไทย เรามาดูกันว่าการขนส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศมีความแตกต่างกันอย่างไร และปัจจัยอะไรที่กำหนดว่าสินค้าควรจะขนส่งทางเรือหรือทางอากาศ
มีบทบาทสําคัญต่อการค้าระหว่างประเทศ ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน และในอนาคต เพราะสามารถขนส่งสินค้าได้ในปริมาณมาก และมีค่าระวาง (ค่าขนส่ง) ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับการขนส่งรูปแบบอื่น แตใช้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าที่นานที่สุด
ข้อดี
ข้อเสีย
การขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นการขนส่งที่รวดเร็วที่สุดเหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการความเร่งด่วนในการจัดส่งสินค้า หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง
ข้อดี
ข้อเสีย
การเลือกรูปแบบของการขนส่งสินค้าให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและประหยัดระยะเวลาในการขนส่ง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสินค้าของเราจะเหมาะกับการขนส่งรูปแบบไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ประเทศที่ไม่มีอาณาเขตติดทะเล การขนส่งทางอื่นอาจจะมีความล่าช้าในการขนส่ง หากต้องการขนส่งสินค้าเร่งด่วน ดังนั้นการขนส่งสินค้าทางอากาศ จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด
ในประเทศที่มีอาณาเขตติดกับทะเล การขนส่งสินค้าทางทะเลย่อมมีบทบาทที่สำคัญในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
แต่สำหรับประเทศที่ไม่มีอาณาเขตติดกับทะเลก็สามารถใช้การขนส่งแบบ Multi Modal เช่น การขนส่งสินค้าด้วยเรือไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและต่อด้วยขนส่งทางรถและทางราง เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งไปยังประเทศที่มีการขนส่งสินค้าทางทะเล
ในบางครั้งสินค้าชนิดเดียวกันอาจจะใช้รูปแบบการขนส่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ และความต้องการของผู้นำเข้าและผู้ส่งออก ดังนั้นการเลือกใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่งและค่าเสียโอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจาก : Triple i Logistics